การเรียกใช้ก็ง่ายๆ
- หลังจากเปิดโปรแกรมก็ไปที่ File
- เลือก Preferences หรือจะกด hot-key : ctrl+alt+p ก็ได้นะครับ
เอาละครับนี้ก็คือ list topic ต่างๆที่มีอยู่ใน Preferences ที่เราจะสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการทำงานของเรา(ว้าว~~ ถือว่าเยอะมากนะครับ - -" แ่ต่ในทางกลับกัน ก็ถือว่ามีลูกเล่นให้เราเลือกใช้มากเหมือนกัน ^^)
แล้วเราก็จะมาดูว่าแต่ละหัวข้อนั้นทำอะไรได้บ้าง เริ่มจาก
- HTTP Settings
- HTTP Version --> Version ของ HTTP มีอยู่ 3 ระดับ
- User-Agent Header--> กรอก User Agent
- Request Compression --> เลือกประเภทของ Request compression ( การบีบอัด file )
- Response Compression --> ยอมรับ response compression จาก hosts
- Disable Response Decompression --> การปิด function : compressed responses
- Close connections after request --> ปิดการเชื่อมต่อของ Http หลังจากทำงานเสร็จ
- Disable Chunking --> การปิด function : content-chunking
- Authenticate Preemptively --> เพิ่มข้อมูล Authentication ให้กับ Request ที่ออกจากการทำงาน
- Pre-encoded Endpoints --> ไม่ทำ URL-encode ให้เสร็จ หากคุณ set จุดนี้หมายถึงURL-encode ของคุณพร้อมที่จะ encoded เท่านั้น
- Bind Address --> กรอก Bind Address
- Include request in time taken --> มันจะทำให้ การเขียน Request เป็นไปตาม time-taken
- Include response in time taken --> มันจะทำให้ การอ่าน response เป็นไปตาม time-taken
- Socket Timeout --> กรอก socket time out ของ HTTP requests
- Max Response Size --> จำนวนเต็มของขนาด Response
- Max Connections Per Host --> จำนวนเต็มของการเชื่อมต่อถึง hosts
- Max Total Connections --> ผลรวมของจำนวนเต็มในการเชื่อมต่อ
- Leave MockEngine --> ออกจาก MockEngine เมื่อปิด MockService
- Enable Mock HTTP Log --> เปิดใช้ บริการ Mock Http log
- Proxy Settings
- Proxy Host -->Proxy host ที่เราใช้
- Proxy Port -->Proxy port ที่เราใช้
- Proxy Username -->Username ที่เราใช้
- Proxy Password -->Password ที่เราใช้
- SSL Settings
- keyStore--> พื้นที่ที่ใช้เก็บ keyStore
- keyStore password -->Password ของ keyStore
- Enable Mock SSL--> เปิดใช้ SSL support ของ MockServices
- Mock Port--> Port ของ Mock
- Mock KeyStore--> Keystore ที่ใช้สำหรับ SSL ของ Mock
- Mock Password--> Password ของ Mock
- Mock Key Password -->Password ของ Mock Key
- Mock TrustStore--> Truststore ที่ใช้
- Mock TrustStore Password -->Password ของ TrustStore
- Client Authentication--> ต้องการ client authentication
- WSDL Settings
- Cache WSDLs--> เปิด Cache และ ยอมรับการใช้งานจาก User ที่ offline
- Sample Values--> เปิดตัวอย่างทั่วไปของค่าต่างๆเมื่อ สร้าง new request
- Type Comment -->ประเภทของ Comment
- Include Optional -->มี function ของ optional เสมอเมื่อสร้าง file ใหม่
- Pretty Print -->แสดงการตอบสนองที่สวยงามในหน้าต่างของ response editor
- Attachment Parts--> มีส่วนของ RPC แสดงใน attachment
- No Content-Type Validation--> อนุญาตให้มีส่วนของ Content-Type ที่ผิด
- Schema Directory -->ที่เก็บ Schema
- Name with Binding--> ใช้ชื่อของ WSDL Binding ในการนำเข้า
- Excluded Types -->ประเภทของการ Excluded
- Strict Schema Types--> ความแน่นอนของประเภท Schema
- Compression Limit -->ขอบเขตของการบีบอัด
- Pretty Print Project Files--> Print file ของโปรเจคเมื่อบันทึกงาน
- UI Setting
- Close Projects -->ปิด Project ทั้งหมด
- Order Projects -->จัดชนิดของ Project เข้าด้วยกัน
- Order Requests -->จัดชนิดของ Request เข้าด้วยกัน
- Order TestSuites -->จัดชนิดของ TestSuite เข้าด้วยกัน
- Show Descriptions -->แสดงคำอธิบาย
- Save Projects On Exit--> บันทึก Project อัตโนมัติเมื่อปิดโปรแกรม
- Create Backup -->สร้าง Backup File
- Backup Folder -->ตำแหน่งที่เราต้องการเก็บ Backup file
- Auto Save Interval -->เวลาที่เราตั้ง auto save ไว้
- Desktop Type -->ประเภทของ Destop
- Native L&F -->Lock ตำแหน่งของ Native หลังจาก restart
- Do not disable Groovy Log -->ห้ามปิดการทำงานของ Groovy Log.
- Show Log Tabs -->แสดง log tabs เมื่อเปิดใช้โปรแกรม
- Show Startup Page -->เปิด Startup webpage ของ soapUI เมื่อเปิดโปรแกรม
- Editor Settings
- Editor Font -->การเลือก Font ของตัวอักษร
- XML Line Numbers -->แสดงตัวเลขบรรทัดในส่วนของหน้าจอ XML-Editor
- Groovy Line Numbers -->แสดงตัวเลขบรรทัดในส่วนของหน้าจอ Groovy-Editor
- Disable auto-resize--> ปิดการทำงานของอัตโนมัติ Resizing ของ Request editors
- Tabbed Request view -->ตั้งค่า Defaults ของ Request editors ให้กับ Tab layout
- Validate Requests -->แสดงข้อความเตือนก่อนการส่งเสมอเมื่อมีข้อความ Request ที่ผิดพลาด
- Abort on Invalid--> แสดงความล้มเหลวเมื่อมี Request ที่ผิดพลาด
- Validate Responses -->แสดงข้อความตอบสนองต่อ validation เสมอ
- Tools
ในส่วนนี้จะเป็นการนำ tools ต่างๆที่มีอยู่ใน list มาใช้ร่วมกับโปรแกรม soapUI นะครับ
- WS-I Settings
- Verbose -->การตั้งค่าของ verbose output ของ WS-I tools
- Results Type--> การตั่งค่าของประเภท Results
- Message Entry -->การแสดงค่าของ Message Entry ในรายงาน
- Failure Message -->การแสดงค่าของ failure messages ในรายงาน
- Assertion Description-->การแสดงค่าของ assertion ในรายงาน
- Location -->พื้นที่ที่ใช้ในการ install tools
- Show Log -->แสดง log window เมื่อโปรแกรมกำลัง run WS-I
- Output Folder -->Folder ที่ใช้เก็บ file ของ output
- Global Properties
ในส่วนนี้จะเป็นการใส่ Password เข้าไปนะครับ
- WS-A Settings
- Soap action overrides wsa action: -->การกระทำของ Soap จะยกเลิกหาก WS-S เริ่มทำ
- Use default Relationship Type: --> ใช้ค่า default ของ Relationship Type
- Use default Relates To: -->ใช้ค่า default ของ RelatesTo
- Overide existing headers: --> ยกเลิกการมีอยู่ของ headers
- Enable for optional Addressing policy:--> เปิด WS Addressing เพื่อ Policy Addressing
- soapUI Pro
- Default Request Editor --> ค่ามาตรฐานของ Request Editor
- Default Response Editor --> ค่ามาตรฐานของ Response Editor
- Outline Editor Limit -->ค่าLimit สูงสุดของขนาดข้อความที่โปรแกรมจะรับได้ในระบบ online
- Form Editor Limit --> ค่าLimit สูงสุดของขนาดข้อความที่โปรแกรมจะรับได้ในระบบ form editor
- Table Inspector Columns --> ค่าของจำนวนสูงสุดของ columns displayed
- Script Library --> พื้นที่สำหรับเก็บค่าของ Script Libray
- Coverage Settings
- Auto Prepare--> การจัดเตรียมแบบอัตโนมัติสำหรับการ coverage รายงาน
- Code Templates
ในส่วนนี้จะมีอยู่ 2 template ให้เลือกนะครับ คือ grut และ xhre
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น